varityzad
คนดูแลเด็ก
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 244
Registration date : 27/05/2007
 | เนเธฃเธทเนเธญเธ: "คุณอยากรู้ไหมว่าคุณจะตายเมื่อไหร่?".....  Sun Jul 01, 2007 7:14 pm | |
| - เธญเนเธฒเธเธญเธดเธเธเธฒเธ :
- มหัศจรรย์แห่งเวลา Nano Clock...
ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่อึมครึม และทุกฝ่ายกำลังเรียกร้องการสมานฉันท์ วันนี้จึงอยากเริ่มเรื่องด้วยคำถามสบาย ๆ... อบอุ่นและเป็นกันเอง เพื่อคลายบรรยากาศที่ตึงเครียด...
"คุณอยากรู้ไหมว่าคุณจะตายเมื่อไหร่?"
ชักเริ่มอารมณ์ดีขึ้นมาแล้วใช่ไหม... ถ้างั้นอย่าเพิ่งถามผมกลับ ว่าผมอยากตายเมื่อไร แต่เรามาจับมือแล้วหาคำตอบด้วยกันดีไหม? และสิ่งแรกที่คุณต้องทราบก็คือ...
อายุที่แท้จริงของคุณคือเท่าไร?
อยู่มาแล้วเท่าไร?
เพื่อที่จะได้หาเศษเวลาอยู่ต่อที่เหลืออีกน้อยนิดว่าเป็นเท่าไร?... ผมว่าคุณรู้แล้วต้องสบายใจแน่เลย
วิธีหาอายุที่แท้จริงของมนุษย์และสัตว์ชนิดต่าง ๆ ให้คิดจากปีที่สัตว์ชนิดนั้นเจริญพันธุ์ คูณด้วยห้าหรือหก คนเราเริ่มพ่นพิษเมื่ออายุ 20 ปี (ใครลงมือก่อนเวลาอายุสั้นแน่นอน) เพราะฉะนั้นอายุที่แท้จริงก็คือ 100-120 ปี
ขุนพันธรักษ์ราชเดช ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อปี พ.ศ. 2549 อายุ 108 ปี
ปู่เย็น แก้วมณี อายุ 105 ปี และขณะนี้ยังมีชีวิตอยู่
แม่เฒ่าครูซ เฮอร์นันเดซ ชาวเอลซัลวาดอร์ เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันพฤหัสที่ 8 มีนาคม 2550 ด้วยวัย 128 ปี
ตามบัตรประชาชน เธอเกิดเมื่อปี 2421 ตรงกับเวลาในไทย กลางสมัยรัชกาลที่ 5 (ไม่เชื่อไปถามนายทะเบียนที่รับแจ้งเกิดเธอได้!!!) เธอจึงเป็นผู้หญิงที่อายุยืนที่สุดในโลกที่กินเนส บุ๊คยังไม่ได้บันทึก (อายุยืนที่สุดที่ปรากฏตามเรคคอร์ดของกินเนส บุ๊ค คือ สตรีชาวฝรั่งเศส อายุ 114 ปี ที่เสียชีวิตไปแล้วก่อนหน้านี้)
นี่เป็นการยืนยันอายุที่แท้จริงของมนุษย์จากความจริงที่ปรากฏ... แต่ที่คนส่วนใหญ่อยู่กันไม่ครบวาระก็เพราะ ส่วนหนึ่งใช้ชีวิตอย่างผิดกฏของเวลา ทำอะไรไม่สอดคล้องกับเวลา หรืออาจใส่ใจในเรื่องเวลา แต่กลับดูนาฬิกาผิดเรือน!!!
แล้วนาฬิกามีกี่เรือน?
คำตอบคือ สองเรือน
หนึ่ง นาฬิกาทุกชนิดที่มนุษย์สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ดูเวลา... (และใช้พ่วงกับระเบิด!)
สอง นาฬิกาที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาเพื่อให้มนุษย์รู้จักเวลาของชีวิต หรือ Biological Clock (นาฬิกาชีวิต) ซึ่งถูกติดตั้งไว้ในร่างกาย พร้อมการกำเนิดมนุษย์
มันเป็นตัวตั้งเวลาตื่น เวลากิน เวลานอน เวลาขับถ่าย เวลาออกกำลังกาย เป็นตัวส่งสัญญาณบอกว่าถึงเวลาหาคู่ ตลอดจนบอกเวลาแห่งความเป็น ความตายของมนุษย์ที่น่าเชื่อถือที่สุด คนที่เฝ้าฟังเสียงกระซิบจากข้างใน (Inner Voice) จะได้ยินสัญญาณของมัน
นาฬิกาเรือนนี้ ออกแบบมาด้วยสุดยอดเทคโนโลยี "นาโน" ซึ่งควบคุมและประมวลผลด้วยกลไกที่เป็นอวัยวะ เริ่มเดินด้วยแรงสั่นสะเทือนครั้งแรกของหัวใจ โดยตั้งเวลาหยุดเดินไว้ที่ 100 กว่าปีหลังจากนั้น ไม่ใช่ 60 หรือ 70 ปี อย่างที่เข้าใจกัน
สำหรับเฮอร์นันเดซแล้ว อายุ 64 ปีนั้น เป็นวัยกลางคน ไม่ใช่วัยทอง แต่หลายคนคิดว่าเป็นเวลาที่ควรจะจองศาลาได้แล้ว โลกทัศน์เช่นนี้ ย่อมส่งผลให้เกิดอาการไหล่ห่อและคอตก เป็นอุปสรรคต่อการมีชีวิตที่ยืนยาว ทำให้เวลา 40 ปีที่ควรจะอยู่ ก็หายไปพร้อมกับความเชื่อแบบถดถอยนี้...
หากคุณต้องการจัดระเบียบชีวิตเสียใหม่ ให้กิจกรรมประจำวันมีความสอดคล้องกับกฏเกณฑ์เวลาของนาฬิกาชีวิต คุณต้องรู้ว่า "ควรจะทำอะไรบ้างในแต่ละชั่วโมง" เพราะในทุก ๆ 2 ชั่วโมง พลังชีวิต (ลมปราณ) จะเคลื่อนผ่านอวัยวะที่แตกต่างกันไป รวม 12 ชนิด หมุนเวียนกันไปตามลำดับเวลาเหมือนนาฬิกา ดังนี้
01.00-03.00 น.
พลังเคลื่อนผ่านตับ ควรนอนหลับพักผ่อน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ตับจะหลั่งสารเอนดอร์ฟิน (Endophin) และนี่ไม่ใช่เวลากินอาหาร ใครฝ่าฝืนกินเข้าไป ตับจะเสื่อมเร็ว เพราะตับมีหน้าที่ขจัดสารพิษออกจากร่างกาย มีหน้าที่รองได้แก่ ดูแลความงามให้ผม ขน เล็บ และช่วยหลั่งน้ำย่อยให้กระเพาะ ถ้ากินบ่อย ตับจะทำงานหนัก ทำให้หน้าที่หลักบกพร่องไป เป็นเหตุให้สารพิษตกค้างในตับ... สัญญาณมรณะชัด ๆ !!!
03.00-05.00 น.
เป็นช่วงเวลาที่พลังไหลผ่านปอด จึงควรตื่นนอนขึ้นมาเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ และเตรียมตัวรับแสงแดดยามเช้า ผู้ที่ตื่นนอนในช่วงนี้เป็นประจำ ปอดจะดี ผิวจะดี และเป็นคนที่มีอำนาจในตัว ด้วยน้ำเสียงที่กังวาน ทำให้การสื่อสารมีอำนาจขึ้นอีกเยอะ แต่เวลานี้ มนุษย์ทั้งหลายกำลัง
"หลับไหล" จึงไม่แปลกหรอก ที่คนสุขภาพแย่ มีมากเท่ากับขนโค ส่วนคนสุขภาพดี มีจำนวนแค่เขาโค
พระสงฆ์เลือกที่จะจำวัดแต่หัวค่ำ และตื่นมาทำวัตรเช้าในเวลาตีสาม เวลาเข้านอนที่เหมาะสมก็คือ สามทุ่ม แต่ถ้าต้องการนอน 7 ชั่วโมง ก็เข้านอนตอนสองทุ่ม แล้วตื่นตีสี่ ก็เลือกเอา แต่ประมวลการณ์ดูรอบด้านแล้ว กิจกรรมใดที่เกิดขึ้นตอนหลังพลบค่ำมักไม่ก่อประโยชน์ที่คุ้มค่ามากไปกว่าการนอนหลับ...
05.00-07.00 น.
เป็นช่วงเวลาของการขับถ่ายโดยผ่านลำไส้ใหญ่ เราควรขับถ่ายให้เป็นนิสัยทุกเช้า มิฉะนั้นของเสียจะถูกระบายออกทางผิวหนัง กลิ่นเหม็นบูดถูกระบายออกทางลมหายใจ แล้วลองคิดดูสิว่า ถ้าผู้หญิงมีกลิ่นตัวเหมือนหมาตาย สามีย่อมคลายแรงพิศวาสลงเป็นธรรมดา
คุณคงไม่เชื่อว่าการผิดเวลาขับถ่าย จะนำไปสู่การเลิกราหย่าร้างได้ในที่สุด
แต่เชื่อเถอะครับ เป็นไปได้แน่... อย่างน้อยพอเมียพูดออกมา ผัวก็กลับตะคอกใส่ว่า... "ก็ฉันถามเธอดี ๆ แล้วเธอเอาขี้มาพ่นใส่ฉันทำไม?"...เดี๋ยวก็ทะเลาะกันจนเป็นเรื่องได้
07.00-09.00 น.
เป็นช่วงเวลาของกระเพาะอาหาร ถ้าเรากินอาหารเช้าได้ในช่วงเวลานี้ทุกวัน กระเพาะก็จะแข็งแรง เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความเชื่อที่ว่า "ร้องเพลงในครัวแล้วจะมีผัวแก่!!!"... ก็เพราะถ้าสามีเกิดได้ยินเสียงเพลงของภรรยาเข้าแล้วกินอะไรไม่ลง จะทำให้กระเพาะอาหารอ่อนแอ และส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ปวดเข่า ขาไม่ค่อยมีแรง ที่สำคัญ การอดอาหารมื้อเช้านั้น จะทำให้ "หน้าแก่ก่อนวัย!!!"...
09.00-11.00 น.
เป็นช่วงเวลาของม้าม ห้ามนอนเด็ดขาด เพราะม้ามจะอ่อนแอ ม้ามมีหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน ผู้ที่นอนหลับในช่วงเวลานี้ จะปวดศีรษะ เจ็บชายโครง เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง ม้ามสร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย ถ้าม้ามชื้น อาหารและน้ำที่กินเข้าไป จะแปรสภาพเป็นไขมัน ทำให้อ้วน...อ้วน...อ้วน... ได้ยินไหม? ถ้านอนตื่นสายก็ไปทำงานสาย หมดอนาคตเห็น ๆ
หากผิดเวลานอน เป็นการบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงานของตับ ถ้าอดนอนเพื่อกินเหล้า ก็จะบาปเป็นสองเท่า เพราะทำให้ตับที่ไม่ได้พักผ่อนอยู่แล้ว ต้องมาทำงานหนักในการสกัดกั้นสารพิษเพิ่มขึ้นอีก เมื่อกลับมานอนเอาตอนตีสาม ตีสี่ นี่ก็เป็นการทำร้ายปอด และถ้านอนไปจนถึงสิบโมง ก็ทำให้อดอาหารมื้อเช้า เข้าทางแก่ก่อนวัย แล้วไปตื่นสาย ๆ ก็ทำให้ม้ามอ่อนแอ เกิดโรคที่เกี่ยวกับกระแสเลือดและน้ำเหลือง จะทำให้อยู่ก็ไม่สบาย ตายก็ไม่สะดวก
ม้ามยังสัมพันธ์กับริมฝีปาก พวกที่พูดมาก กินมาก นอกจากจะไม่น่ารักและเปลืองตังค์ ไม่น่าเลี้ยงดูแล้ว จะเป็นคนม้ามชื้น คนพูดน้อย กินน้อย ม้ามจะแข็งแรง มีเวลาทำงาน หาตังค์ได้เยอะกว่า
11.00-13.00 น.
พลังปราณผ่านหัวใจ หัวใจจะทำงานหนัก จึงควรหลีกเลี่ยงเหตุแห่งความเครียดและการใช้ความคิดหนัก ต้องระงับความตื่นเต้นตกใจให้ได้ ถ้าระงับไม่ได้ ให้ลองระงับใหม่อีกที!!!
13.00-15.00 น.
เป็นช่วงเวลาของลำไส้เล็ก เราควรงดกินอาหารทุกประเภท เพื่อเปิดโอกาสให้ลำไส้เล็กได้ทำงาน ลำไส้เล็กมีหน้าที่ดูดซึมอาหารที่เป็นน้ำทุกชนิด เช่น วิตามินซี วิตามินบี โปรตีน เพื่อนำกรดอะมิโนไปสร้างเซล์สมอง ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างไข่สำหรับผู้หญิง ถ้ากรดอะมิโนมีน้อย ไข่จะไม่มาครบทุกเดือน ซึ่งผู้หญิงต้องใช้กรดอะมิโนมากกว่าผู้ชาย จึงมีลำไส้ที่ยาว เพื่อดูดซึมกรดอะมิโนนานกว่า จากการสาวไส้กันเองของพวกผู้หญิง พบว่าเธอมีลำไส้ยาวกว่าผู้ชาย 11 ฟุต จึงทำให้ผู้หญิงมีกระดูกซี่โครงมากกว่าผู้ชาย 1 ซี่
15.00-17.00 น.
เป็นช่วงเวลาของกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบความจำ การอั้นปัสสาวะเอาไว้นั้น ปัสสาวะจะถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือด ทำให้เหงื่อที่ออกมามีกลิ่นเหม็น ในช่วงเวลานี้เราควรขับเหงื่อด้วยการออกกำลังกาย กระเพาะปัสสาวะจะได้แข็งแรง... ว่าแต่ตอนสี่โมงเย็น คุณเลิกงานหรือยัง?
17.00-19.00 น.
เป็นเวลาของไต ควรที่จะทำตัวให้สดชื่น ผู้ที่ง่วงเหงาหาวนอนเวลานี้ แสดงว่ามีปัญหาเรื่องไตเสื่อม ถ้าอาการหนักมาก จะนอนหลับแล้วเพ้อ ไตซ้ายจะคุมสมองด้านขวา คือส่วนที่เป็นความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์สุนทรีย์ รักสวยรักงาม ถ้าไตซ้ายมีปัญหา จะเป็นคนที่ไม่ดูแลตัวเองและจะขี้ร้อน ส่วนไตขวาจะคุมสมองด้านซ้าย ควบคุมด้านความจำ และถ้าไตด้านขวามีปัญหา ความจำจะเสื่อม เป็นคนขี้หนาว ถ้าไตแข็งแรง จะเป็นคนกล้าและอายุยืน แต่ถ้าไตวาย จะตายไวครับ!!!
ไตจะต้องทำงานหนัก ถ้าลำไส้เล็กมีไขมันเกาะมาก อาหารที่อยู่ในรูปของสารละลายจะผ่านลำไส้เล็กไม่ได้ ทำให้เป็นโรคไต ซึ่งจะส่งผลถึงอาการสมองเสื่อม ปวดหลัง เป็นหวัดง่าย มีเสลดในคอ
19.00-21.00 น.
เป็นช่วงเวลของเยื่อหุ้มหัวใจ กิจกรรมที่ควรทำในช่วงนี้คือ สวดมนต์ ทำสมาธิ ระวังเรื่องตื่นเต้นดีใจ หัวเราะ ที่จริงควรจะควบคุมอารมณ์ให้เป็นกลาง ๆ ไปตลอดทั้งวัน เจริญสมาธิทุกขณะจิตไปพร้อมกับการทำงาน คนที่มีเส้นเลือดขอด ต้องดูแลเยื่อหุ้มหัวใจให้แข็งแรง ควรใส่เสื้อผ้าชุดสีดำ สีเทา
21.00-23.00 น.
เป็นช่วงเวลาแห่งการเก็บพลังงาน ต้องทำร่างกายให้อบอุ่น ห้ามอาบน้ำเย็นหรือตากลม เพราะช่วงนี้ลมเป็นพิษ ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย
23.00-1.00 น.
เป็นช่วงเวลาของถุงน้ำดี ซึ่งเป็นถุงสำรองน้ำย่อยที่หลั่งออกมาจากตับ และเมื่ออวัยวะในร่างกายขาดน้ำก็จะดึงน้ำไปจากถุงน้ำดี ทำให้น้ำดีข้น เป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อมลง เหงือกจะบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก จามตอนเช้า เพราะถุงน้ำดีจะโยงถึงปอด ปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ อย่าใส่ชุดนอนที่เป็นผ้าใยสังเคราะห์ไนล่อน เพราะมันจะไปดูดน้ำในร่างกาย ควรใช้ชุดนอนที่เป็นผ้าฝ้าย ไม่ควรนอนบนฟูกหนา ๆ เพราะจะทำให้เสียน้ำ ควรดื่มน้ำก่อนนอนเยอะ ๆ ด้วย และควรนอนก่อน 23.00 น.
นี่เป็นตารางกิจกรรมที่สัมพันธ์กับสภาวะธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ ดูแล้วอาจจะขัดแย้งกับวิถีชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยภาระหน้าที่ อย่างไรก็ตาม การผิดเวลากับเจ้านาย โทษร้ายแรงที่สุด คือ การถูกไล่ออกจากงาน ซึ่งก็นับเป็นโอกาสดีที่จะได้สร้างงานใหม่ ให้มีความลงตัวกับชีวิตต่อไปได้
แต่การผิดเวลากับนาฬิกาชีวิตต่างหาก ที่ทำให้มนุษย์ต้องชะตาขาด ได้รับการพิพากษาอันเจ็บปวดทรมานแสนสาหัส และเข้าสู่หลักประหารด้วยพยาธิสภาพ ปลิดลมหายใจก่อนวัยอันควร โดยไม่อาจขออุทธรณ์ เพื่อที่จะอยู่ทำงานต่อไปได้อีก...
นาฬิกาชีวิต เป็นประกาศิตแห่งเวลาที่จะนำพามนุษย์ไปสู่วิถีแห่งความสุข แต่ที่น่าแปลกใจที่มนุษย์หัวรั้นทั้งหลายต่างก็เดินสวนทางกับเข็มนาฬิกาเรือนนี้มากขึ้นทุกวัน
"มนุษย์จึงเป็นโรคและอายุสั้นลงถึง 8 ชั่วโมง จากการไปทำงานทุก 1 วัน ในบริบทการทำงานที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน... ทีนี้รู้หรือยังว่า...
คุณยังเหลือเวลาในชีวิตอยู่อีกเท่าใด???"
ที่มา : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=colouroflove&group=8&month=05-2007&date=07&gblog=1 | |
|
pocky
คนดูแลเด็ก
เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 100
อายุ : 42
Registration date : 07/06/2007
| | เนเธฃเธทเนเธญเธ: Re: "คุณอยากรู้ไหมว่าคุณจะตายเมื่อไหร่?"..... Mon Jul 09, 2007 10:34 pm | |
| อย่างนี้เละแน่ๆ ที่บอกมาเราสวนทางหมดเลย.....กำเวร
ขอบคุณครับ....... | |
|
